top of page

Black Music Month - ฮิปฮอป บลูส์ ไม่ใช่แค่เสียงเพลง

  • ดล
  • Jun 17, 2017
  • 1 min read

เดือนนี้ (เดือนมิถุนายน) ของทุกๆปีจะเป็นเดือนที่เรียกว่า African American Music Appreciation Month หรือก็คือเป็นเดือนแห่งการรำลึกถึงความสำคัญของดนตรีแอฟริกันอเมริกันนั่นเอง

วันนี้เราจะมารู้จักกับเดือนนี้และดนตรีของคนผิวสีกัน

ที่มาของเดือนนี้ มาจากประธานาธิบดี Jimmy Carter เล็งเห็นถึงความสำคัญของดนตรีของคนผิวสี และอิทธิพลของดนตรีคนผิวสีต่อวงการดนตรีทั้งหมด จึงจัดตั้งให้เดือนนี้เป็นเดือนที่สำคัญเดือนหนึ่งของปีตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ.1979 ในชื่อ Black Music Month ต่อมาภายหลังถูกเปลี่ยนแปลงโดยประธานาธิบดี Barack Obama ให้เป็นชื่อที่ใช้อยู่ในปัจจุบันหรือก็คือ African American Music Appreciation Month

หากพูดถึงดนตรีคนผิวสี หลายๆคนอาจจะนึกถึงแนวดนตรี Hip-Hop หรือเพลง Blues แต่ที่จริงแล้วอิทธิพลของดนตรีคนผิวสีได้ลามไปทั้งวงการดนตรีจริงๆ และหลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเพลงที่ชื่นชอบกันหลายๆแนวนั้น ล้วนมีนักดนตรีชาวแอฟริกันอเมริกันเป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มและพัฒนาทั้งนั้น

ไม่ว่าจะเป็น Hip-Hop, Blues, Jazz, Soul, R&B, Reggae หรือแม้กระทั่ง Rock and Roll

ดนตรีคนผิวสีในยุคแรกๆนั้น เริ่มมาจากเพลงพื้นเมืองที่ถูกขับร้องโดยแรงงานทาสในสมัยก่อน จนคนผิวสีได้มีการเข้าถึงเครื่องดนตรีต่างๆมากขึ้น จึงได้พัฒนามาเป็นดนตรี Blues ซึ่งเป็นพื้นฐานของดนตรีอเมริกันแทบจะทุกๆแนว

เนื้อหาของดนตรีคนผิวสีในแทบทุกสมัยมักจะมีการแสดงถึงความยากลำบากของคนผิวสีในสมัยนั้นๆ อย่างเช่นเพลง Blues ที่มีการกล่าวถึงเรื่องการกดขี่ข่มเหงทาสในสมัยก่อน หรือการถูกเหยียดสีผิวในยุคถัดๆมาในแนวดนตรี Hip-Hop จนถึงดนตรีในยุคที่มีการเรียกร้องสิทธิของคนผิวสีในช่วง 60’s อย่างดนตรีแนว Gospel, Soul เป็นต้น

เรียกได้ว่าดนตรีของคนผิวสีนั้น เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอเมริกันอย่างแท้จริง

อีกทั้ง ยังเป็นแรงผลักดันอีกหนึ่งแรงที่สำคัญอย่างมากของการเรียกร้องสิทธิคนผิวสีโดยเฉพาะใน Civil Rights Movement หรือการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องสิทธิมนุษยชนในช่วงปี 1954-1968 ที่นำโดย Martin Luther King Jr. และคนอเมริกันจำนวนมากที่ไม่เห็นด้วยต่อการแบ่งแยกผิวสี ซึ่งมีดนตรีทำหน้าที่เป็นเสียงของประชาชนได้เป็นอย่างดี

เพลงหลายเพลงในยุคนั้นส่งผลอย่างมากต่อการเป็นแรงจูงใจให้คนอเมริกันรวมตัวกันประท้วงต่อความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมในเรื่องของการเหยียดสีผิว และมีเนื้อหาที่มักจะเกี่ยวกับความยากลำบากของการใช้ชีวิตที่ถูกแบ่งแยก เหยียดหยามและมีความหวังต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ซึ่งในครั้งนี้ ผมขอยกตัวอย่างดนตรีเหล่านั้น มาให้ทุกท่านได้ลองฟังกันดู

A Change Is Gonna Come - Sam Cooke

Strange Fruit - Billy Holiday (Unofficial Uploader)

We Shall Overcome - Joan Baez (Unofficial Uploader)

ไม่เพียงแต่คนผิวสีที่ไม่เห็นด้วยต่อการแบ่งแยกในสมัยนั้น คนอเมริกันผิวขาวก็เช่นกันที่มีส่วนร่วมใน civil rights movement และนักดนตรี Country ชื่อดังหลายคนเช่น Bob Dylan, Pete Seeger หรือ Joan Baez ก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน

แม้การประท้วงครั้งใหญ่ครั้งนั้นจบลง แต่ปัญหาของการแบ่งแยกผิวสีก็ยังคงมีอยู่ ในดนตรียุคหลังจากนั้นก็มีการกล่าวถึงอย่างมากเช่นกัน

Get Up, Stand Up - Bob Marley (Unofficial Uploader)

How Many (Black Lives) - Miguel (Unofficial Uploader)

Freedom - Beyonce (Covered by Rag’N’Bone Man)

เพลงเหล่านี้มีการกล่าวถึงคดีหลายครั้งที่คนผิวสีถูกยิงแต่ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจหรือศาลในการดำเนินคดีด้วย ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

นอกจากอิทธิพลในวงการดนตรีแล้ว ดนตรีของคนผิวสีมีส่วนอย่างมากในการเปลี่ยนแปลงของสังคมโดยเฉพาะทางด้านสิทธิความเท่าเทียมเช่นกัน จึงเป็นสิ่งที่คู่ควรแก่การยกย่องและรำลึกถึงอย่างยิ่ง

Jimi Hendrix [Photo Courtersy of The National]

“Music doesn’t lie. If there is something to be changed in this world, then it can only happen through music.” – Jimi Hendrix ดนตรีไม่เคยโกหก หากจะมีการเปลี่ยนแปลงในโลกนี้ มันสามารถเกิดขึ้นได้ด้วยดนตรีเท่านั้น

- Jimi Hendrix

Illustated by Sira Boontositrakul

Comments


FOLLOW US
  • Black Facebook Icon
  • Black YouTube Icon
  • Black Instagram Icon
SEARCH BY TAGS
FEATURED POSTS
ARCHIVE
bottom of page